วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปี 2556 มี "ดาวหาง" มาให้ชมจุใจ 2 ดวงเลย

ปี 2556 มี "ดาวหาง" มาให้ชมจุใจ 2 ดวงเลย



ภาพคาดการณ์ความสว่างของดาวหางไอซอนเมื่อมองจากฟ้าที่อังกฤษ ในวันที่ 29 พ.ย.56 หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า (universetoday)


ปี'56 "ดาวหาง" มาให้ชม 2 ดวง

สมาคมดาราศาสตร์ฯ เผยปี '56 มีดาวหางที่อาจสว่างจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 2 ดวง คือ "ดาวหางแพนสตาร์ส" ที่ค้นพบเมื่อปี '54 โดยคาดว่าจะได้เห็น 30 นาที หลังอาทิตย์ตก ช่วงกลาง มี.ค. และ "ดาวหางไอซอน" ที่ค้นพบเมื่อปี '55 ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นช่วงปลาย พ.ย.56 ไปถึงต้นปี '57

สมาคมดาราศาสตร์ไทยเผยว่าในปี 2556 นี้คนไทยมีโอกาสได้ชมดาวหางที่คาดว่าจะสว่างจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 2 ดวง ได้แก่ ดาวหางแพนสตารร์ส (Panstarrs) หรือ C/2011 ซึ่งค้นพบเมื่อ มิ.ย.54 และขณะนี้กำลังเข้าใกล้ดวงอาทิตย์และเริ่มปรากฏหางจากความร้อนของดวงอาทิตย์แล้ว ดาวหางไอซอน (Ison) หรือ C/2012 S1 ซึ่งเพิ่งค้นพบเมื่อเดือน ก.ย.55

ทั้งนี้ นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวหางแพนสตารร์สจากภาพถ่ายเมื่อเดือน มิ.ย.54 ขณะที่ดาวหางอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 7.9 หน่วยดาราศาสตร์ (ระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ เรียกว่า 1 หน่วยดาราศาสตร์) จะเข้าใกล้โลกที่สุดในวันที่ 5 มี.ค.56 ซึ่งระนาบโคจรของดาวห่าง 84 องศา หรือเกือบตั้งฉากกับระนนาบวงโคจรของโลก และจะผ่านจุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ 10 มี.ค.56

คาดว่าจะเริ่มสังเกตดาวหางแพนสตารร์ส ด้วยตาเปล่าได้ในช่วงปลาย ม.ค.56 หรือต้น ก.พ.56 แต่สังเกตได้ดีในซีกโลกใต้ ส่วนในประเทศไทยยังไม่สามารถเห็นได้เพราะดาวหางขึ้นและตกเกือบพร้อมดวงอาทิตย์ ข้อมูลจากสมาคมดาราศาสตร์ฯ ระบุว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับประเทศน่าจะเป็นช่วง 9-17 มี.ค.56 เนื่องจากเป็นช่วงที่ดาวหางสว่างที่สุด และตกลับขอบฟ้าช้าที่สุด

“อย่างไรก็ดี ดาวหางจะปรากฏเฉพาะช่วงเวลาที่ยังมีแสงยามเย็น ท้องฟ้าไม่มืดสนิท และปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวปลา ซึ่งเราอาจสังเกตเห็นหางที่ทอดยาวขึ้นเหนือขอบฟ้า จากแนวโน้มคาดว่าวันที่ 8-12 มี.ค.56 ความสว่างหรือโชติมาตรของดาวหางจะอยู่ในช่วง +1 ถึง -1 ซึ่งนับว่าสว่างมาก แต่การสังเกตจะทำได้หลังดวงอาทิตย์ตกไปแล้ว 30 นาที โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันตก” ข้อมูลจากสมาคมดาราศาสตร์ระบุ

ส่วนดาวหางไอซอนนั้นเพิ่งถูกค้นพบเมื่อเดือน ก.ย.55 ที่ผ่านมา ขณะดาวหางอยู่ห่าวจากดวงอาทิตย์ 6.3 หน่วยดาราศาสตร์ และจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดราว 28-29 พ.ย.56 ที่ระยะห่าง 0.012 หน่วยดาราศาสตร์ หรือ 1.9 ล้านกิโลเมตรและห่างจากผิวดวงอาทิตย์เพียง 1.2 ล้านกิโลเมตร โดยคาดว่าความสว่างของดาวหางจะอยู่ในช่วงโชติมาตร -10 ถึง -16 หรือสว่างใกล้เคียงและมากกว่าดวงจันทร์ (ค่าโชติมาตรยิ่งติดลบยิ่งสว่าง)

หากความสว่างเป็นไปตามคาดหมาย ทางสมาคมดาราศาสตร์ฯ ระบุว่าผู้สังเกตในประเทศไทยจะได้เห็นดาวหางไอซอนด้วยตาเปล่าบนท้องฟ้ากลางคืนช่วงต้นเดือน พ.ย.56 - เดือน ม.ค.57 แต่ยกเว้นช่วงปลาย พ.ย.-ต้น ธ.ค.55 เพราะดาวหางจะขึ้นและตกไปพร้อมดวงอาทิตย์ โดยดาวหางไอซอนจะเข้าใกล้โลกที่สุดราว 26-27 ธ.ค.56 ที่ระยะ 0.4 หน่วยดาราศาสตร์ หรือ 64 ล้านกิโลเมตร

นายปณัฐพงศ์ จันทรวัฒนาวณิช เจ้าหน้าที่สมาคมดาราศาสตร์ไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ว่า ตำแหน่งของดาวหางไอซอนบนฟ้านั้นอยู่ในตำแหน่งที่เห็นง่ายกว่าดาวหางแพนสตารร์ส เพราะอยู่กลางฟ้า และยังมีความสว่างกว่ามาก แต่ความสว่างก็อาจคลาดเคลื่อนได้ โดยเมื่อดาวหางเฉียดใกล้ดวงอาทิตย์อาจสลายไปจนไม่อาจเห็นได้

“สำหรับดาวหางแพนสตารร์สอยู่ในตำแหน่งที่ดูได้ทั้งโลก ซึ่งตอนนี้เริ่มเข้ามาใกล้และเริ่มปรากฏหางแล้ว นักดาราศาสตร์มีข้อมูลเกี่ยวกับดาวหางดวงนี้มากกว่า ส่วนดาวหางไอซอนจะเห็นได้ดีในประเทศซีกโลกเหนือ ตอนนี้ยังไม่เข้ามาใกล้ ยังเป็นก้อนน้ำแข็งอยู่ และไม่ปรากฏหางที่เกิดจากความร้อนของดวงอาทิตย์” ปณัฐพงศ์กล่าว

เจ้าหน้าที่สมาคมดาราศาสตร์ฯ ให้ข้อมูลอีกว่า ปกติดาวหางจะเข้ามาในระบบสุริยะปีละหลาย 10 ดวง แต่ในปี 56 นี้พิเศษที่มีดาวหางสว่างถึง 2 ดวงที่จะได้เห็นในเมืองไทย ซึ่งปกติจะใช้เวลา 5-10 ปีจึงจะได้เห็นดาวหางสว่างๆ จึงน่าติดตาม เพราะทั้งสว่างและเห็นได้ในเมืองไทย ซึ่งตอนนี้นักดาราศาสตร์รู้แค่ว่าจะโคจรอย่างไร แต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อโดนความร้อนของดวงอาทิตย์แล้วจะปริแตกหรือไม่




ภาพดาวหางแพนสตาร์ส ซึ่งถ่ายจากเปอร์โตริโก เมื่อ 4 ก.ย.55 (Efrain Morales/Jaicoa Observatory)




ภาพดาวไอซอน เมื่อ 22 ก.ย.55 จากหอดูดาว RAS สหรัฐฯ (E. Guido, G. Sostero, N. Howes)





ที่มา
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9550000155247