วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

บุษราคัม (Yellow sapphire)

บุษราคัม (Yellow sapphire)



 เป็นอัญมณีประเภทคอรันดัมที่มีสีเหลือง พบได้ในธรรมชาติเป็นแร่เดียวกับทับทิม ไพลิน เขียวส่อง พัดพารัดช่า และพวก Fancy sapphire แต่ส่วนใหญ่ที่ขายในท้องตลาดจะได้จากการเผาพลอยคอรันดัมที่มีสีเหลืองจาง มีตำหนิสีอื่นปนบ้าง(เหลือง,เขียว,นำเงินมาปนกัน) และสีเขียว(เขียวส่อง) ทำให้มีสีสวยงาม เข้มขึ้นขายได้ราคาสูง พลอยบุษราคัมสีจะมีตั้งแต่เหลืองอ่อนเรียกบุษย์น้ำเพชร, สีอมเขียวเรียกว่าบุษย์น้ำแตง, สีเหลืองทองเรียกบุษย์น้ำทอง, สีคล้ายเหล้าเรียกบุษย์น้ำแม่โขง, สีเหลืองเข้มมากเรียกบุษย์น้ำขมิ้นเน่า, สีเหลืองออกส้มเรียกว่าบุษย์น้ำจำปา , บุษย์น้ำแม่โขงและน้ำทองเป็นที่นิยมจะมีราคาแพง โดยน้ำโขงจะแพงกว่า ลักษณะที่ดีควรเลือกพลอยที่เจียรไนได้สัดส่วน ก้นไม่บางจนเกินไป ใสไม่มีตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า พลอยจึงจะมีประกายงดงาม แหล่งบุษราคัมที่สำคัญคือ จันทบุรี ศรีลังกา ทวีปแอฟริกา ออสเตรเลียและอื่นๆ

บุษราคัม   
บุษราคัม Yellow Sapphire เป็นแร่ตระกูลคอรันดัม เช่นเดียวกับทับทิม ไพลิน มีค่าความแข็งเป็นเลิศ คือแข็ง 9 ในโมห์สเกล ธาตุให้สีคือธาตุเหล็กสีเหลืองบุษราคัม เป็นสีของอัญมณีที่เข้ากันได้ดีกับผิวของคนไทย และอีกหลาย ๆ เชื้อชาติในแถบเอเชียและกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางเพราะสีของพลอยจะไม่โดดเด่นจนตัดกับผิวอย่างชัดเจนแต่เป็นความกลมกลืนและทำให้มือ ลำคอ หรือใบหน้าผิวพรรณดูดีสว่างไสวขึ้น

บุษราคัมเป็นหนึ่งในอัญมณีนพเก้าที่มีความเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งต่อผู้ได้ครอบครอง เมื่อได้ประดับประดาด้วย “บุษราคัม” อีกทั้งสีเหลืองยังให้ความรู้สึกสงบร่มเย็นแก่อารมณ์และจิตใจ บุษราคัมจึงเป็นพลอยที่นิยมตลอดมาอย่างไม่เสื่อมถอย แม้ว่าพลอยบุษราคัมในปัจจุบันจะหาที่สวยคุณภาพดีได้ยากมานานแล้วก็ตาม

บุษราคัมจากแหล่งต่าง ๆ

*ซีลอนหรือศรีลังกา ถือเป็นแหล่งสำคัญที่ให้พลอยคุณภาพดีเยี่ยม เนื้อผลึกมีความใส ก้อนผลึกมีความลึก เมื่อมาเจียระไนแล้วจะส่องประกายแวววาวคล้ายกับเพชร ส่วนมากจะพบก้อนผลึกที่สีไม่สม่ำเสมอ หากเม็ดใดมีสีเสมอจะมีราคาสูงมาก

*บางกะจะ จันทบุรี ให้พลอยที่มีสีเหลืองแกมเขียว หากเม็ดใดให้สีเหลืองสดใสจะมีราคาสูง หาได้ยากยิ่ง เนื้อพลอยจากแหล่งบางกะจะนี้มีเนื้อแกร่งกว่าจากแหล่งใดๆ ทั้งหมด
*ออสเตรเลีย ให้พลอยที่มีลักษณะคล้ายกับของบางกะจะ มักพบเป็นสีเหลืองแกมเขียว หรือเหลืองแกมน้ำเงิน มีแถบสีชัดเจน

*มาดากัสการ์ ให้พลอยที่มีเนื้อสดใส สะอาด แต่ระยะนี้มักพบพลอยสีเหลืองที่มาจากแหล่งนี้ถูกเผาด้วยกรรมวิธีใหม่ อาจในสารเคมีบางตัวลงไปขณะที่เผา โดยกรรมวิธีการเผานี้ในตลาดต่างประเทศยังไม่สรุปผลยอมรับว่าเป็นการเผาที่ คล้ายคลึงกับธรรมชาติ 

ถ้าขณะนี้ท่านกำลังเตรียมควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อบุษราคัมสักเม็ด ลองดูหลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อบุษราคัมกันก่อนวิธีเลือกบุษราคัมน้ำงาม

1.บุษราคัม มีสีเหลืองอ่อน-เข้มหลายระดับ ตั้งแต่ บุษน้ำแตงคือบุษสีอ่อน บางครั้งแกมเขียวเล็กน้อย  บุษน้ำทองคือบุษสีทองสดใสเหมือนดั่งทองคำ บุษแม่โขงคือบุษที่มีสีทองแกมน้ำตาล เมื่ออยู่กลางแดดสีจะเหมือนเหล้าแม่โขงดีกรีแรงของไทย  ไปจนถึงบุษสีเหลืองอมแดง จะเลือกสีแบบใดขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว ที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นสีเหลืองทองสดใส และบุษแม่โขง

2.บุษราคัมที่ดีต้องไม่มีตำหนิในเนื้อพลอยที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะโดยธรรมชาติพลอยชนิดนี้มักจะมีความใสสะอาดเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว

3.เนื้อพลอยบุษราคัมที่ดีควรสวยใส ไม่ซึมหรือดูเหมือนมีฝ้าละอองเล็กๆ กระจายอยู่ภายใน มองดูมีความมันวาวและแลดูแกร่ง ซึ่งจะสะท้อนกับแสงไฟได้ดีมาก

4.นานๆ ครั้งก็จะมี “บุษราคัมสตาร์” ให้เห็นบ้างเช่นกัน ส่วนใหญ่เนื้อพลอยจะค่อนข้างทึบ มีสีเหลืองอมน้ำตาลหรืออมทอง และมีเส้นสตาร์ 6 ขา อยู่บนหน้าพลอย นับเป็นของหายากและเหมาะที่จะสะสมไว้ทำชุด “นพเก้า” มากที่สุด เพื่อจะได้เข้าชุดกับไพลินสตาร์ ทับทิมสตาร์ ซึ่งต่างก็หาของสวยๆได้ค่อนข้างยากเช่นกัน

5.ขนาดของพลอยและระดับสีเหลืองสวยที่เหมาะกับสีผิว ถ้ามีผิวสีขาวผ่องนวลก็สามารถใส่บุษราคัมได้ทุกเฉดสี ถ้าท่านมีผิวสีเข้มออกทางดำแดง สีเหลืองบุษราคัมที่เหมาะน่าจะมีสีเหลืองเข้ม เช่น สีแม่โขง 

ในอดีตที่ผ่านมา บุษราคัมจันทบุรี (เนื้อก้อนพลอยค่อนข้างบาง) มักจะได้รับการเจียระไนให้เป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ต่อมาการเจียระไนรูปทรงอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เพราะมีการนำเข้าพลอยบุษจากแหล่งต่างๆ มากขึ้น และพลอยต่างประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ก้อนพลอยจะหนา ทำให้เจียระไนแล้วมีเนื้อก้นพลอยค่อนข้างหนาลึก จึงประกายไฟระยิบระยับสวยงาม แต่เปรียบเทียบความแน่นความแกร่งของเนื้อพลอยแล้วถือว่าพลอยจันทบุรีเป็น อันดับหนึ่ง ส่วนสีพลอยนั้น บุษราคัมจากศรีลังกาจะมีความสดใสมากกว่าเป็นส่วนใหญ่
ที่มา
www.aiyaragems.com/content.aspx?id=62