วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กลุ่มดาวสิงโต (LEO) ราศีสิงห์

กลุ่มดาวสิงโต (LEO) ราศีสิงห์


กลุ่มดาวสิงโต ประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 9 ดวง ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนที่ผ่านกลุ่มดาวราศีสิงห์ระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม ถึง 17 กันยายน เป็นกลุ่มดาวที่สังเกตได้ง่ายบนฟ้า เพราะมีดาวฤกษ์ดวงใหญ่สีน้ำเงินขาวสว่างที่สุดในกลุ่มดาวนี้ 1 ดวง อยู่ตรงบริเวณหน้าอกของสิงโต เรียกว่า ดาวเรกิวลุส ( REGULUS ) หรือ ดาวหัวใจสิงห์ มีความสว่างถึง 1.35 และ ตรงปลายหางของสิงโตจะมีดาวฤกษ์สว่างสีขาวอีก 1 ดวง เรียกว่า ดาวหางสิงห์ ( DENEBOLA ) มีความสว่าง 2.14 ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 นั้น ดวงจันทร์จะปรากฏเต็มดวงบริเวณหัวของสิงโต ที่เรียกว่า มาฆฤกษ์

กลุ่มดาวสิงโต เป็นกลุ่มดาวอันดับที่ห้าของกลุ่มดาวจักรราศี เป็นกลุ่มดาวที่อยู่ในแนวสุริยวิถีที่สังเกต และจดจำได้ง่ายโดยรูปสิงโตของกลุ่มดาวสิงโต จะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ดาวในส่วนหัวของสิงโตจะเรียงกันเป็นรูปเครื่องหมายคำถามกลับด้าน (Reversed Question Mark) โดยมีดาวฤกษ์สุกสว่างคือ ดาวเรกูลัส ซึ่งจะอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของสิงโต จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า ดาวหัวใจสิงห์ มีดาวที่สำคัญดังนี้ Regulus or Cor Leonic ดาวหัวใจสิงห์ (ดาวเรกูลัส) เป็นดาวฤกษ์สีน้ำเงิน-ขาวที่อยู่บนแนวสุริยวิถี มีความสว่างประมาณ 1.35 เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างเป็นอันดับ 21 ของท้องฟ้าตอนกลางคืน อยู่ห่างจากโลกประมาณ 77 ปีแสง ชื่อดาว Regulus หมายถึง หัวใจสิงห์ เป็นดาวหนึ่งในสี่ของดาวราชาทั้งสี่ (The Four Royal Stars) ซึ่งประกอบด้วย ดาวหัวใจสิงห์ ดาวตาวัว ดาวปาริชาต และดาวโฟมาออท ซึ่งแต่ละดวงจะแบ่งเส้นรอบวงท้องฟ้าออกเป็น 4 ส่วน โดยอยู่ห่างพอๆกันประมาณครึ่งท้องฟ้า (90 องศา) ทำให้เรามองเห็นดาวราชาอย่างน้อย 1 คู่เสมอ นอกจากนี้ดาวหัวใจสิงห์เป็นดาวคู่โดยโคจรรอบดาวฤกษ์อีกดวงซึ่งกันและกันพอมองเห็นได้ด้วยกล้องสองตา Denebola ดาวเดเนบโบลา มีความสว่างประมาณ 2.14 อยู่ห่างจากโลกประมาณ 36 ปีแสง ชื่อดาว หมายถึง หางสิงโต (The lion's tail) ซึ่งอยู่ในตำแหน่งหางสิงโตพอดีโดยดาว Denebola เป็นดาวคู่เช่นกันแต่ไม่สามารถเห็นดาวคู่ได้ด้วยกล้องดูดาวขนาดเล็ก Algieba ดาวอัลจีบา เป็นดาวคู่ มีความสว่างประมาณ 2.2 และ 3.47 สามารถเห็นดาวคู่ได้ด้วยกล้องดูดาวขนาดเล็กอยู่ห่างจากโลกประมาณ 126 ปีแสงโคจรรอบซึ่งกันและกันโดยใช้เวลาประมาณ 620 ปีต่อรอบ ชื่อดาวหมายถึง หน้าผาก (The Forehead) แต่จริงๆแล้วอยู่ในตำแหน่งคอของสิงโต นอกจากนี้เราสามารถเห็นฝนดาวตกสิงโต (Leonid Meteor Shower) ได้ตรงตำแหน่งประมาณ 2 องศาไปทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของดาวดวงนี้โดยจะเห็นมากสุดทุก 33 ปีโดยครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.2542 (ค.ศ.1999) Adhafera ดาวแอดฮาเฟอรา เป็นดาวคู่เช่นกันอยู่ห่างจากโลกประมาณ 260 ปีแสงโดยที่อีกดวงมีความสว่างประมาณ 6 พอมองเห็นดาวคู่ได้ด้วยกล้องสองตา M95 M96 M105 - The Galaxy M95 และ M96 เป็นกาแลกซีแบบกังหัน (Spiral Galaxy) ส่วน M105 เป็นกาแลกซีแบบทรงกลม (Elliptical Galaxy) กล้องสองตา อยู่ห่างจากดาวหัวใจสิงห์ ไปทางตะวันออก ประมาณ 9 องศาอยู่ห่างจากโลกประมาณ 30 ล้านปีแสง จากกาแลกซีทางช้างเผือกมีความสว่างประมาณ 9.7, 9.2 และ 9.3 ตามลำดับ

นิทานดาว สิงโต เป็นราชาหรือเจ้าแห่งสัตว์ป่าของโลก ออกล่าเหยื่อรบกวนชาวบ้าน จึงถูกฆ่าโดยเฮอร์คิวลิส (Hercules) แต่เนื่องจากสิงโตตัวนี้ มีหนังหนาและเหนียว ฟันแทงไม่เข้า จึงถูกเฮอร์คิวลิสฆ่า โดยล็อคคอด้วยมือเปล่า (Headlock) จากนั้นเฮอร์คิวลิสก็ถลกหนัง โดยใช้เล็บของสิงโตเอง จากนั้น ก็เอาหนังมาทำเครื่องแต่งกาย และเกราะ ทำให้เฮอร์คิวลิสดูน่าเกรงขาม จากนั้น Selene เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ได้นำสิงโตขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวจักราศี โดยที่สิงโตจะวิ่งหนีเฮอร์คิวลิสตลอดเวลา โดยสิงโตอยู่สูงสุดบนท้องฟ้า ในขณะที่เฮอร์คิวลิสกำลังขึ้น และตกในขณะที่เฮอร์คิวลิส อยู่สูงสุดบนท้องฟ้าเสมอ